วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

การพิมพ์

  


การ พิมพ์เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะสื่อสารกันระหว่างมนุษย์ ต้องการที่จะถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ มนุษย์จึงได้คิดตัวอักษรและเครื่องมือที่จะบันทึกตัวอักษร มนุษย์ได้ใช้ตัวอักษรเป็นสื่อถ่ายทอดความรู้สึก ความนึกคิด ความรู้และประสบการณ์ไปสู่ผู้อื่น มนุษย์ยังคงไม่หยุดแค่นั้นยังหาวิธีที่จะทำให้คนกลุ่มมากได้รับทราบสารต่าง ๆ ที่ต้องการจะถ่ายทอด โดยถ่ายทอดได้ครั้งละมาก ๆ หลาย ๆ สำเนาและไม่เสียเวลามาก โดยจำลองออกมาจากต้นฉบับ มนุษย์ได้เริ่มเรียนรู้วิธีการแกะสลักเป็นสิ่งแรก แล้วนำไปประทับจะทำให้เกิดสำเนาที่เหมือนกับต้นฉบับขึ้น

                                                     โยฮันน์ กูเตนเบิร์ก

ถึงกระนั้น เหตุที่กูเตนเบิร์กได้ชื่อว่า เป็นบิดาแห่งการพิมพ์ก็เนื่องมาจากเขาเกิดในดินแดนยุโรปที่มีตัวอักษรแค่ 26ตัว และปัญญาชนของโลกใช้วิทยาการนี้เผยแพร่ความคิด เขาจึงได้ชื่อว่าผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ เพราะวิทยาการของเขาส่งผลต่อวิทยาการแขนงต่างๆของโลกสืบมา
โยฮันเนส เจนส์ไฟลช์ ลาเดน ซูม กูเตนเบิร์ก เกิดราวปี ค.ศ. 1398 ที่เมืองไมนซ์ประเทศเยอรมนี บิดาเป็นขุนนางขั้นสูงชั้นสูง ชื่อ ไฟร์ล เจนส์ไฟร์ล ซูร์ ลาเดน 
ส่วนมารดาชื่อ เอลซ์ ไวริช
ในวัยเด็ก กูเตนเบิร์กติดตามบิดาไปโบสถ์เพื่อดูการพิมพ์ภาพ และเห็นว่าการแกะสลักบล็อกไม้เป็นเรื่องยากส่งผลให้หนังสือมีราคาแพงและไม่ ค่อยแพร่หลาย เขาจึงใฝ่ฝันอยากสร้างเครื่องที่สามารถพิมพ์หนังสือได้รวดเร็วนับแต่นั้นมา
ราว ค.ศ. 1411 ประเทศเยอรมนีเกิดเหตุจลาจล บ้านเรือนกว่าร้อยหลังคาเรือนถูกยึด กูเตนเบิร์กพลัดถิ่นไปอยู่ที่เมืองอัลทา เข้าเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเออเฟิร์ต ดังที่มีชื่อปรากฏในบันทึกของมหาวิทยาลัยเมื่อปี ค.ศ. 1419 ซึ่งเป็นปีเดียวกับบิดาของเขาเสียชีวิต
หลังจากนั้น ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของกูเตนเบิร์กอีกเลย กระทั่งพบจดหมายของเขา เมื่อเดือนมีคม ค.ศ. 1434 ว่าเขาพักแรมอยู่ที่สตาสบูร์กทำงานเป็นลูกจ้าในร้านตัดกระจก เขาประดิษฐ์เครื่องพิมพ์และอักษรโลหะ 26 ชิ้นที่มีขนาดเท่ากันได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ค.ศ. 1448 กูเตนเบิร์กเดินทางกลับเมืองไมนซ์ เพื่อยืมเงินญาติและเพื่อนมาลงทุนทำโรงพิมพ์ สุดท้ายเพื่อนชื่อโยฮันน์ ฟัสต์ (Johann Fust) ให้ยืมเงิน 800 กิลเดอร์
ค.ศ. 1455 เครื่องพิมพ์กูเตนเบิร์กพิมพ์พระคัมภีร์ไบเบิลออกมาราว 800 เล่ม เป็นที่รู้จักกันในชื่อ’ไบเบิ้ลของกูเตนเบิร์ก’  จากผลงานครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งจากสังฆราชเมืองไมนซ์ให้เป็นมหาดเล็ก และได้รับเงินบำนาญอีกด้วย
ต่อมาปี ค.ศ. 1475 วิลเลียม แคกซ์ตันอ นับเป็นหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกของโลก
วิทยาการด้านการพิมพ์ได้แพร่หลายสู่ ประเทศต่างๆอย่างรวดเร็ว ที่เมืองเวนิช ประเทศอิตาลี อัลดุลมานูติอุสช่างพิมพ์สามรถประดิษอักษรตัวเอน รวมถึงรูปแบบตัวอักษรที่เรียบง่ายเป็นจำนวนมาก
แม้กูเตนเบิร์กจะไม่ใช่คนแรกที่คิด ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ แต่สิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้ก็คือ เขามีส่วนสำคัญนการทำให้วิทยาการต่างๆของโลกได้รับการเผยแพร่ กูเตนเบิร์กถึงแก่กรรมที่บ้านเกิด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1468 ศพของเขาถูกนำไปฝังที่โบสถ์นิกายฟรังซิสซึ่งต่อมาโบสถ์แห่งนี้กับสุสานถูกทำลาย ทำให้หลุมศพของกูเตเบิร์กหายสาบสูญไปด้วย
เพราะเทคโนโลยีด้านการพิมพ์หนังสือแท้ๆ จึงทำให้เราทุกวันนี้ สามารถรับและสืบทอด ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ ได้อย่างเอนกอนันต์ เพราะหากไม่มีเทคโนโลยีด้านการ พิมพ์นี้แล้ว และให้เราคัดลอกความรู้ต่างๆ กันด้วยมือมนุษย์เองนั้น ก็ยากที่จะทำให้ความ รู้วิทยาการแขนงต่างๆ แพร่หลายอย่างกว้างไกลเฉกเช่นปัจจุบันนี้ โดยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ว่านั้น ต้องยกเครดิตให้กับนักประดิษฐ์ชาวเยอรมันผู้หนึ่ง นั่นคือ “โยฮันส์ กูเตนเบิร์ก” ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นราว 400 ปี จีนแผ่นดินใหญ่สามารถ ประดิษฐ์การพิมพ์ได้แล้ว แต่ทว่าก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะมุ่งรับใช้ราชสำนักเป็นสำคัญ ไม่เหมือนกับกูเตนเบิร์ก ที่ทำให้การพิมพ์หนังสือแพร่หลายไปทั่วทุกหัวระแหง โดยนักประดิษฐ์ “แท่นพิมพ์แบบเคลื่อนที่” ผู้นี้ เกิดเมื่อปีพ.ศ. 1941 ที่เมืองเมนซ์ ดินแดนเยอรมนี ได้ประดิษฐ์คิดค้นแท่นพิมพ์ดังกล่าวขึ้นมา เริ่มจากปี พ.ศ. 1982 ก่อน ที่จะพัฒนามาโดยลำดับ และได้พิมพ์เอกสารต่างๆ มากมาย จนถือว่าได้เป็นงานหลักใน ชีวิตของเขา แต่ที่นับว่ายิ่งใหญ่ เพราะรู้จักแพร่หลายกันอย่างที่สุด ก็คือ การพิมพ์ คัมภีร์ไบเบิล ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “กูเตนเบิร์ก ไบเบิล” ที่พิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 1998 

1 ความคิดเห็น:

  1. ที่สั่งให้วิเคราะห์ผลกระทบอยู่ไหนคะ ส่วนไหนที่ครูจะให้คะแนนความคิดของนักศึกษาได้บ้าง

    ตอบลบ